วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

โอซิลคิงออฟแอสซิสต์



นับว่าเป็นที่ฮือฮาไม่น้อยไปกว่าการย้ายทีมของแกเร็ธ เบล ซุปตาร์ทีมชาติเวลส์ของสเปอร์ส ที่ไปซบตักเรอัล มาดริดด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติใหม่ของโลกนั่นก็คือการที่ทีมจอมหนืดอย่างอาร์เซน่อลกล้าๆ ทุบกระปุกเอาเงินออกจากคลังมากกว่า 42.5 ล้านปอนด์เพื่อแลกกับเมซุต โอซิล จอมทัพทีมชาติเยอรมัน มาจากถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาบิวในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ 2013 จะปิดตัวลงเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง

แม้ทีมราชันชุดขาวเพิ่งจะเบอร์ห้าบ้าเห่อกับการได้มาของสตาร์รายใหม่อย่างเบล แต่ในทางตรงกันข้ามกลับมีแฟนบอลทีมราชันชุดขาวแห่มารวมตัวกันกว่า 20,000 คนเพื่อประท้วงการขายโอซิลในระหว่างแถลงการณ์เปิดตัวแข้งที่แพงที่สุดของโลกคนใหม่ด้วยการพากันร้องตะโกนสวนออกมาเมื่อนำมาแปลเป็นภาษาบ้านเราได้ว่า "โอซิลไม่ได้มีเอาไว้ขาย"
หากมองกันลึกลงไปแล้วจะพบว่าโอซิลนี่แหละน่าจะเป็นเพลย์เมกเกอร์เบอร์หนึ่งของยุโรปตัวจริงจากผลงานการจ่ายบอลให้เพื่อนกระทุ้งตุงตาข่ายและการสร้างสรรค์โอกาสในเกมได้ขนาดที่ว่าลีโอเนล เมสซี่ แข้งเบอร์หนึ่งของโลกทีมชาติอาร์เจนตินาของบาร์เซโลน่า ยังเทียบชั้นกันไม่ได้เลยทีเดียว รวมทั้งยังเหนือกว่าแข้งมาใหม่อย่างเบลอีกด้วย ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าเขาได้รับฉายา "คิง ออฟ แอสซิสต์"



โอซิล ซึ่งย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในเยอรมันตามคุณพ่อคุณแม่ของเขาที่อพยพมาจากตุรกี ออกสตาร์ทหนทางค้าแข้งด้วยการเป็นเด็กฝึกหัดของทีมเล็กๆ ทางย่านเกลเซ่นเคียร์เช่น ก่อนที่จะเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับชาลเก้ 04 หลังจากนั้นก็ถูกแวร์เดอร์ เบรเมนดึงตัวไปเสริมทัพเมื่อเดือนมกราคมปี 2008 จนฉายแววแข้งเทพออกมาจากการพาทีมตรานกนางนวลทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า คัพแต่อกหักพ่ายชัคเตอร์ โดเน็ตส์คของยูเครนไปแบบฉิวเฉียด 1-2

ขณะที่ผลงานในระดับชาติของเขาก็ไม่ได้น้อยหน้าใครเมื่อช่วยให้เยอรมันฟันอันดับ 3 ในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ด้วยผลงานที่สุดทีนที่ไล่ย้ำใหญ่ทั้งอังกฤษ 4-1 และอาร์เจนตินา ซึ่งมีเมสซี่ ไปอย่างขาดลอย 4-0 ก่อนที่ทีมอินทรีเหล็กจะอกหักในศึกยูโร 2012 ที่โปแลนด์และยูเครนด้วยการพ่ายอิตาลีไปแบบล็อคถล่ม 1-2 ในรอบตัดเชือก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น