ประเดิมกันที่ทีมขวัญใจมหาชนคนทั่วโลกอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่อยู่ในกลุ่มเอร่วมกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมแกร่งแห่งบุนเดสลีกาเยอรมัน และเรอัล โซเซียดัด ทีมม้ามืดจากลา ลีกาสเปน รวมทั้งชัคเตอร์ โดเน็ตส์ค เจ้าของแชมป์ยูฟ่า คัพทีมสุดท้ายจากยูเครน ซึ่งมองดูรูปการแล้วนั้นต่อให้ทีมปีศาจแดงจะเปลี่ยนกุนซือจากเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันมาเป็นเดวิด มอยส์ก็คงไม่ได้ด้อยประสิทธิภาพลงไปมากนักและน่าจะตบเท้าเข้ารอบต่อไปในฐานะแชมป์กลุ่ม
ขณะที่ทีมคู่กัดร่วมเมืองของแมนฯ ยูไนเต็ดอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้โชคดีไม่น้อยหลังจากทั้ง 2 ซีซั่นที่ผ่านมาต้องดวงจู๋ไปอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธมาตลอด โดยในปีนี้ทีมเรือใบสีฟ้ามีเพื่อนร่วมกลุ่มดีที่ประกอบไปด้วยบาเยิร์น มิวนิค เจ้าของทริปเปิ้ลแชมป์จากเยอรมันภายใต้การกุมบังเหียนของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า และซีเอสเคเอ มอสโก ทีมดังของรัสเซีย รวมทั้งวิคตอเรีย เพลเซ่น ทีมไม้ประดับจากเช็ก ซึ่งลองส่องกล้องมองเกมส์ดูแล้วแมนฯ ซิตี้ปีนี้น่าจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้เป็นอย่างน้อย
เชลซีที่ต้อนรับการกลับมาคุมทีมอีกครั้งของโชเซ่ มูรินโญ่ถือว่าอยู่ในสายที่หวานหมูไม่น้อยเมื่อได้อยู่ในกลุ่มอีกับบาเซิ่ล ขาใหญ่ในลีกสวิส และชาลเก้ 04 ทีมแกร่งแห่งบุนเดสลีกา รวมไปถึงสเตอัว บูคาเรสต์ ทีมนอกสายตาจากโรมาเนีย ซึ่งเชื่อขนมกินได้เลยว่าจ่ามูคงนำทีมสิงโตน้ำเงินครามทะยานเข้ารอบน็อกเอ้าต์ไปได้แบบชิวๆ
แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคงเป็นอาร์เซน่อลเมื่ออาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือมาดเนี้ยบชาวฝรั่งเศส คงต้องนอนเอาทีนก่ายหน้าผากเมื่อดันจับสลากมาอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธกลุ่มเอฟร่วมกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รองแชมป์เก่าในถ้วยใบนี้เมื่อซีซั่นที่แล้วจากเยอรมัน และนาโปลี ทีมที่มองข้ามไปไม่ได้ของกัลโช่ เซเรีย อา เช่นเดียวกับรองแชมป์ลีกเอิงเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาอย่างโอลิมปิก มาร์กเซย ซึ่งดูจากหน้าเสื่อแล้วฟันธงยากเหลือเกินว่าทีมใดจะผ่านเข้ารอบต่อไปเชื่อว่าน่าจะต้องลุ้นกันยาวๆ ไปจนถึงแมตช์สุดท้ายเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น